ป้อมครึ่งชีวิต

ในสองสามบทแรกของ ครึ่งชีวิต 2: ตอนที่หนึ่ง, ผู้เล่นได้รับการดูโดยตรงในระดับที่ต่ำกว่าของป้อมปราการ. ในขณะที่ส่วนใหญ่ดูมากเช่นเดียวกับส่วนที่เหลือของป้อมปราการไม่มีโรงงานสงครามหรือโรงงานผลิต synth ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้ของโครงสร้าง. ในช่วงนี้ในเกมป้อมปราการสามารถมองเห็นได้อย่างไม่แน่นอนอย่างมากโดยมีแสงสีส้มตลอดทั้งโครงสร้างตรงกันข้ามกับสีน้ำเงินที่เคยเป็นเมื่อใช้งานได้. ไฟได้แพร่กระจายไปทั่วโครงสร้างและเศษซากจากสิ่งที่เหลืออยู่ของระดับบนจะลดลงอย่างต่อเนื่องในระดับที่ต่ำกว่า.

ใหม่ครึ่งชีวิต RTS Citadel รายละเอียดเพิ่มเติมโดย DOTA 2 Datamine

The Halfored Halfored Life: Alyx ติดตาม Half-Life Citadel เป็นไฮบริดเกม FPS และ RTS พร้อม Dota 2 Datamine ใหม่ที่แนะนำตัวละครและกลไกที่เป็นไปได้สำหรับภาคต่อไอน้ำลึกลับของ Valve -ชีวิต 3.

รายละเอียดเกี่ยวกับป้อมปราการครึ่งชีวิตยังคงอยู่ห่างกันไม่มากดังนั้นหากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณเรียนรู้สิ่งที่เรารู้จนถึงตอนนี้คือเกม RTS ที่มีองค์ประกอบ FPS ที่ควรจะเป็น มากกว่า Half-Life 2’s City 17 และควบคุมกองกำลังของทหาร NPC ที่จะทำสิ่งชั่วร้ายของคุณ. .

อย่างไรก็ตาม Datamine ล่าสุดของ DOTA 2 ดูเหมือนว่าจะเสนอข้อมูลเพิ่มเติมบางอย่างเพิ่มเติม. เปิดเผยโดย YouTuber และ Aficionado Tyler McVicker มีรหัสเฉพาะสามรหัสที่บอกใบ้ถึงสิ่งที่คาดหวังใน Citadel ครึ่งชีวิต. . นอกจากนี้ยังมีสตริงที่เรียกว่า “hevsuit.Plugdetach” ซึ่งอาจบ่งบอกว่าผู้เล่นในป้อมปราการสามารถใช้ชุดสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายครึ่งชีวิตที่มีชื่อเสียงและแนบและแยกการเปลี่ยนแปลงและการอัพเกรดต่าง ๆ ซึ่งอาจใช้ในส่วน FPS ของเกม.

ในที่สุดหนึ่งใน NPCs มีชื่อว่า “Houndeye” ซึ่งคุณอาจจำได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทสุนัขที่น่ารักแปลก ๆ จากครึ่งชีวิตดั้งเดิม. จากข้อมูลของ Datamine ผู้เล่นอาจสามารถแนบรายการเข้ากับ Houndeyes แนะนำตัวเลือกการปรับแต่งและอัพเกรดอีกครั้งอาจเป็นไปได้เมื่อมันมาถึงการพัฒนาหน่วยของคุณสำหรับส่วน RTS ของเกม. สิ่งนี้จะชี้ให้เห็นว่าเอเลี่ยน Xen ดั้งเดิมจากการกลับมาครึ่งชีวิตของปี 1998 สำหรับป้อมปราการ.

ในการอ้างอิงถึงสตริง“ ยานพาหนะ” McVicker คาดการณ์ว่าการกล่าวถึงนั้นมีมากมายพวกเขาอาจบ่งบอกถึงการมีอยู่ของโครงการวาล์วที่กำลังจะมาถึงทั้งหมดโดยสิ้นเชิง. Greg Coomer นักออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ Valve เพิ่งบอกกับ Famitsu ในการสัมภาษณ์ที่แปลโดย Tweaktown ว่าพอร์ทัลและนักพัฒนาที่ตายแล้ว 4 คนในปัจจุบันมี“ เกมมากมายในการพัฒนา”.

ในขณะที่เรารอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Citadel ครึ่งชีวิตคุณสามารถอ่านทั้งหมดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Half-Life 3. นอกจากนี้คุณยังสามารถตรวจสอบเกม FPS อื่น ๆ ที่ดีที่สุดและเกม RTS ที่ดีที่สุดบนพีซีซึ่งบางทีอาจจะเป็นวันหนึ่งที่มีครึ่งชีวิต.

Ed Smith ก่อนหน้านี้ของ Edge, Vice และ Polygon, Ed เข้าร่วม PCGamesn ในปี 2022. เขาทำทุกอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Fallout, Half-Life และ Counter-Strike 2.

ป้อมปราการ

ที่ ป้อมปราการ เป็นโครงสร้างขนาดใหญ่และสูงมากตั้งอยู่ในศูนย์กลางของเมือง 17 ซึ่งทำหน้าที่เป็นฐานหลักของการปฏิบัติการและสำนักงานใหญ่ของการรวมกันซึ่งพวกเขาควบคุมโลก. มันเป็นโครงสร้างที่สำคัญที่สุดและเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการรวมกันเนื่องจากเป็นที่ตั้งของสำนักงานผู้ดูแลระบบโลกดร. Wallace Breen.

สารบัญ

• 1 ภาพรวม
  • 1.1 ระดับต่ำกว่า
  • 1.2 ระดับกลาง
  • 1.3 ระดับบน
  • 6.1 แนวคิดศิลปะ
  • 6.2 รุ่น
  • 6.3 ภาพหน้าจอ

  

  ป้อมปราการตั้งอยู่ในเมือง 17 และมีลักษณะคล้ายกับตึกระฟ้าขนาดใหญ่ที่ยืนอยู่ตึกสูงหลายสิบฟุตในอากาศหลายพันฟุตในอากาศ. มันเป็นป้อมปราการที่เพิ่มขึ้นทั้งสองสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าและขยายระยะไกลใต้ดินเช่นกัน. มันเป็นโครงสร้างสามเหลี่ยมเมื่อมองจากด้านบนและได้รับการสวมมงกุฎโดยเครื่องปฏิกรณ์พลังงานมืด. พอร์ทัลที่เกี่ยวข้องเป็นวิธีหลักในการสื่อสารกับการรวมกองกำลังนอกโลก. ระดับการตกแต่งภายในที่ยิ่งใหญ่ของป้อมปราการมีความสามารถในการเป็นที่อยู่อาศัยกองทัพขนาดใหญ่ของทหาร Overwatch โดยตัวอาคารนั้นเป็นเครื่องจักรกลมากและส่วนทั้งหมดของมันสามารถเคลื่อนย้ายเพื่ออนุญาตให้มีการใช้งานจำนวนมาก ปืน. ในชั้นบนของป้อมปราการโรงงานขนาดใหญ่ที่มีการซ่อมแซมและเติมอาวุธในป้อมปราการและแผ่นพับขนาดใหญ่ที่ด้านนอกของป้อมปราการยกขึ้นเพื่อให้สังเคราะห์ออกจากป้อมปราการ.

  ป้อมปราการมีสอง “สถานะ” หรือการกำหนดค่าที่หอคอยขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะ. สิ่งแรกของสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือการกำหนดค่าที่อยู่เฉยๆซึ่งอาจได้รับการดูแลตลอดชีวิตทั้งชีวิตในเมืองเมื่อไม่มีการคุกคามร้ายแรงที่ถูกรวมเข้าด้วยกัน (โครงสร้างยังใช้รูปร่างนี้ในระหว่าง ครึ่งชีวิต 2: ตอนที่หนึ่ง). การกำหนดค่านี้มีความหมายโดยชุดโครงสร้างคล้ายซี่โครงชุดเดียวที่สัมผัสภายในครึ่งขวาของป้อม. อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากที่กอร์ดอนฟรีแมนถูกขนส่งภายในสำนักงานของบรีนในป้อม. เครื่องเคลื่อนย้ายมวลสารของ Kleiner, Breen ทำให้ Citadel ตื่นตัวทำให้โครงสร้างเปลี่ยนไปเป็นสถานะที่ได้รับการแจ้งเตือน. ป้อมปราการสามารถเห็นการเปลี่ยนการกำหนดค่าในขณะที่ Barney Calhoun ให้กอร์ดอนเป็นชะแลง. บาร์นีย์บอกว่านี่เป็นโอกาสที่หายากโดยระบุว่า “ฉันไม่เคยเห็นมันสว่างไสวเช่นนั้น.”การชุบด้านในจะดึงขึ้นขึ้นไปข้างบนเผยให้เห็น” ซี่โครง “ทั้งหมดสี่ชุดในช่วงเริ่มต้นของ เส้นทาง Kanal, ในกรณีที่การกำหนดค่าใหม่เสร็จสมบูรณ์. ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงนี้สัญญาณเตือนดังดังก้องสะท้อนเป็นเวลาหลายวินาทีในแต่ละครั้งที่ฟังอาจเล็ดลอดออกมาจากป้อม. ชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของการชุบแทบมองไม่เห็นทางด้านซ้าย (ทางใต้) ของป้อมปราการก็ลงมาบางส่วนลงไปที่หอ. ป้อมปราการยังสามารถมองเห็นได้จากด้านหลังใกล้กับประตูแรกและ อันตรายจากน้ำ, แสดงแถบโลหะคู่ที่น่าเบื่อคั่นด้วยลำแสงสีขาวแนวตั้งเดียว. เมื่อฟรีแมนก่อวินาศกรรมเครื่องปฏิกรณ์การชุบลงสู่สถานะ “ทั้งหมดที่ชัดเจน” และครอบคลุมซี่โครง. ชุดซี่โครงด้านล่างลงมาตามหอคอยและล็อคไว้ด้านหลังแผงต่ำสุดทางด้านขวามือของโครงสร้าง. มันอาจเป็นทฤษฎีว่ามีการกำหนดค่าอื่น ๆ ที่ป้อมปราการอาจใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองนี้เป็นเพียงการกำหนดค่าที่ปรากฎในเกม.

  หนังสือ การเลี้ยงบาร์ กล่าวว่าบล็อกทั้งหมดจากเมือง 17 หายไปในอากาศบางขณะที่การรวมกันส่งป้อมปราการสู่โลก. อย่างไรก็ตามสิ่งนี้น่าจะเปลี่ยนไปในระหว่างการพัฒนาเนื่องจากเกมไม่แสดงสัญญาณของเหตุการณ์ดังกล่าว. –รถพ่วงสำหรับ ครึ่งชีวิต: Alyx . อย่างไรก็ตามควรสังเกตว่าแกนกลางถูกเคลื่อนย้ายไปยังโลกเป็นโครงสร้างสุดยอดเกี่ยวกับขนาดของป้อมปราการลงไปในพื้นดินซึ่งมีแนวโน้มอยู่ในโครงสร้าง.

  ป้อมปราการถูกล้อมรอบไปด้วยอุปสรรคอัจฉริยะขนาดใหญ่ที่บดขยี้อาคารรอบ ๆ ป้อมปราการและป้องกันการเข้าถึงจากถนนปกป้องโครงสร้างและป้องกันไม่.

  ติดอยู่กับผนังด้านนอกของป้อมปราการในช่องว่างขนาดใหญ่ที่มีท่อระบายน้ำทิ้งและยานพาหนะที่ถูกทำลายเป็นเครื่องจักรอื่น ๆ ที่ขุดพื้นดินอาจขยายพื้นที่ใต้ดินเพื่อให้สามารถก่อสร้างเพิ่มเติมหรือสร้างการเข้าถึงภายนอกไปยังระดับล่าง. ช่องว่างไม่ได้ล้อมรอบป้อม. เครื่องเหล่านี้ได้รับการทฤษฎีว่าทำหน้าที่เป็นตัว จำกัด ขนาดยักษ์เพื่อขับไล่ Antlions แม้ว่าทฤษฎีดังกล่าวไม่น่าเป็นไปได้เนื่องจากการสั่นสะเทือนไม่สามารถครอบคลุมทั้งเมือง. ไฟล์เกมและหนังสือยังพูดถึงเครื่องจักรว่า “ผู้ขุด” แทน thumpers แสดงถึงลักษณะการขุดของมัน.

  การดำรงอยู่ของป้อมปราการที่ตั้งอยู่ทั่วโลกถูกกล่าวถึงในเกมโดยดร. Kleiner และถูกกล่าวถึงโดย Eli ในชั่วโมงสุดท้ายของครึ่งชีวิต: Alyx จำนวน Citadels บนโลกยังคงไม่เป็นที่รู้จัก แต่ก็ไม่ทราบว่าพวกเขาทั้งหมดมีระดับความสูงและรูปลักษณ์เดียวกัน.

  ระดับต่ำกว่า []

  

  ในสองสามบทแรกของ ครึ่งชีวิต 2: ตอนที่หนึ่ง, ผู้เล่นได้รับการดูโดยตรงในระดับที่ต่ำกว่าของป้อมปราการ. ในขณะที่ส่วนใหญ่ดูมากเช่นเดียวกับส่วนที่เหลือของป้อมปราการไม่มีโรงงานสงครามหรือโรงงานผลิต synth ตั้งอยู่ในพื้นที่นี้ของโครงสร้าง. ในช่วงนี้ในเกมป้อมปราการสามารถมองเห็นได้อย่างไม่แน่นอนอย่างมากโดยมีแสงสีส้มตลอดทั้งโครงสร้างตรงกันข้ามกับสีน้ำเงินที่เคยเป็นเมื่อใช้งานได้. ไฟได้แพร่กระจายไปทั่วโครงสร้างและเศษซากจากสิ่งที่เหลืออยู่ของระดับบนจะลดลงอย่างต่อเนื่องในระดับที่ต่ำกว่า.

  การอพยพฉุกเฉินและห้องขนส่งสำหรับที่ปรึกษาตั้งอยู่ในระดับล่างของป้อมปราการ. . . ฝักที่ปรึกษาตั้งอยู่ใต้พื้นแก้วของห้องและเมื่อเตรียมที่จะเทียบท่าพวกเขาลุกขึ้นและเคลื่อนที่ผ่านหลอดก่อนที่จะวางตำแหน่งตัวเองในรางและขยับขึ้นไปด้านบน. เป็นไปได้ว่ามีห้องอีกหลายห้องอยู่ทั่วป้อมปราการ.

  ที่ด้านล่างสุดของป้อมปราการเป็นแกนกลางซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านลิฟท์ที่ลงมาหลายโหลหลายชั้นเท่านั้น. ห้องหลักได้รับการปกป้องจากประตูระเบิดขนาดใหญ่ที่มีเครื่องราช. ห้องควบคุมขนาดใหญ่ตั้งอยู่สามารถมองเห็นแกนกลางพร้อมลิฟท์ทางเข้ากลางที่ทอดยาวไปยังห้องของมันคล้ายกับการออกแบบห้องควบคุมที่มองเห็นเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นสีเข้มที่ปลายด้านตรงข้ามของโครงสร้าง. ห้องพักสามห้องตั้งอยู่ทั่วห้องซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพแกนกลางในกรณีที่พลังงานของมันไม่เสถียร. เครื่องจักรในห้องเหล่านี้เป็นระบบบรรจุสามเท่าที่ทำให้มั่นใจได้ว่าความเข้มของปฏิกิริยาพลังงานมืดภายในแกนอยู่ภายในขอบเขตที่ปลอดภัย. เชื่อมต่อกับแกนกลางตัวเองเป็นสถานีรถไฟที่มีแนวโน้มว่าสินค้ารถไฟมีดโกนจะถูกปล่อยออกไป. จุดนี้ในป้อมปราการอยู่ใต้พื้นผิวประมาณหนึ่งกิโลเมตรและอุโมงค์ที่เชื่อมต่อขยายไปทั่วเมือง 17 ขึ้นไป.

  ระดับกลาง []

  

  ในบทสุดท้ายของ , ผู้เล่นจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการตกแต่งภายในของป้อม. ความอุดมสมบูรณ์ของเทคโนโลยีรวมอยู่ในป้อมปราการตั้งแต่เครื่องกำเนิดไฟฟ้านับไม่ถ้วนและสนามแรงไปจนถึงการสลายตัวของฟิลด์การสลายตัวไปจนถึงลิฟต์และแพลตฟอร์มที่ท้าทายแรงโน้มถ่วงไปจนถึงหลอดยักษ์ที่ขนส่งของเหลวที่ไม่รู้จัก. อาคารทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากวัสดุโลหะสีน้ำเงินสีดำชนิดเดียวกันซึ่งโครงสร้างรวมทั้งหมดทำจาก. ไม่มีความพยายามใด ๆ เลยที่จะให้บุคลากรในรูปแบบของความอบอุ่นหรือความงามที่น่ารื่นรมย์. ทุกอย่างคมชัดและไร้วิญญาณสะท้อนให้เห็นถึงกฎของการรวมกัน. ไม่คำนึงถึงการครอบคลุมของท่อและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลย. โลหะยังไม่เสร็จและออกซิไดซ์. อย่างไรก็ตามคุณสมบัติของมนุษย์ที่มีอยู่เช่นทางเดินบันไดและบันไดดูเหมือนจะเป็นเพียงความคิดในภายหลังราวกับว่าการใช้งานสำหรับมนุษย์นั้นไม่ได้เป็นลำดับความสำคัญโดยตรง.

  “ผู้เยี่ยมชม” ที่บุกรุกทั้งหมดมีอาวุธที่ถูกถอดออกโดยใช้สนามริบสันนิษฐานว่าจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำในตอนท้ายของ ครึ่งชีวิต 2 และเกิดขึ้นอีกครั้งในตอนต้นของ ตอนที่หนึ่ง อย่างกระวนกระวาย, เพราะ ของการปรากฏตัวของสนามริบ.

  มีระบบรถไฟที่ใช้งานอยู่ทั่วป้อมปราการที่รถไฟมีดโกนใช้เพื่อจัดส่งและส่งสินค้า. สินค้าส่วนใหญ่ประกอบด้วย stalkers ใหม่จาก Nova Prospekt. stalkers ถูกส่งในฝักและป้อมปราการรวมถึงระบบการขนส่งขนาดใหญ่สำหรับพ็อดเหล่านี้. งานต่าง ๆ เช่นการดำเนินงานของแผงพื้นฐานหรือการซ่อมแซมอุปกรณ์และหน่วยที่เสียหายจะทำโดย stalkers ภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องของบุคลากร Overwatch หรือสแกนเนอร์.

  Citadel สันนิษฐานว่าจะรวมโรงงานสงครามขนาดใหญ่ที่ซึ่งรวมอุปกรณ์เทคโนโลยีและอาวุธรวมถึง Synths. synth สองประเภทที่ไม่เคยพบเจอที่อื่นในระหว่างเกมการ synth ปูและครก synth สามารถเห็นการถูกส่งไปรอบ ๆ สายพานลำเลียงซึ่งบ่งชี้ว่าพวกเขาอาจผลิตในป้อมปราการและส่งออกไป. ป้อมปราการยังเป็นศูนย์กลางกลางสำหรับทหาร Overwatch (รวมถึงชนชั้นสูง) ซึ่งมีจำนวนมากและเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการยิงปืน.

  ระดับบน []

  

  ก่อนที่จะไปถึงด้านบนสุดของป้อมปราการฟรีแมนผ่านพื้นที่เปิดโล่งหลายแห่งของป้อมปราการที่ส่วนใหญ่ของภายนอกป้อมปราการเปิดให้เปิดเพื่อให้การปล่อยและปืนออกไปอย่างรวดเร็วและเข้าสู่การตกแต่งภายในของป้อมปราการ.

  ในหนึ่งในระดับสูงสุดของป้อมปราการคือสำนักงานของ Doctor Breen ซึ่งเชื่อว่าเป็นที่ตั้งที่เขาส่ง breencasts ของเขา-แม้ว่าผนังจะไม่ตรงกับฉากหลัง “สตูดิโอ” ของเขาแนะนำว่ามีห้องแยกต่างหากสำหรับจุดประสงค์นั้น. ซึ่งแตกต่างจากส่วนที่เหลือของ Citadel สำนักงานของ Breen มีรูปลักษณ์ที่คลาสสิกมากกว่าของมนุษย์ถึงแม้ว่าการรวมสถาปัตยกรรมยังคงเป็นที่โดดเด่นมากแม้ว่าจะมีความสวยงาม. ห้องทำงานของเขารวมถึงสินค้าฟุ่มเฟือยต่าง ๆ เช่นโต๊ะไม้นาฬิกาเสื้อคลุมเบาะหนังลูกโลกพรมราคาแพงพื้นกระเบื้องและหน้าอกของตัวเองเหมือนห้องเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใน Nexus Overwatch. สำนักงานของเขายังมีชุดจอภาพขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของเขาและซึ่งเขาสามารถสื่อสารกับผู้ติดต่อเช่นที่ปรึกษาได้. สำนักงานของบรีนเชื่อมต่อกับระบบการขนส่งนักโทษที่ใช้โดย Gordon Freeman และมีฝักนักโทษอื่น ๆ อีกมากมายรอบ ๆ สำนักงานของเขา. . อาจสันนิษฐานได้ว่าบรีนอาศัยอยู่ในป้อม.

  ส่วนบนสุดของป้อมปราการประกอบด้วยเครื่องปฏิกรณ์แบบฟิวชั่นสีเข้มของ Combine ซึ่งดูเหมือนว่าจะเชื่อมต่อโดยตรงกับสำนักงานของ Breen ซึ่งใช้เพื่อเพิ่มพลังงานอุปกรณ์พกพาอุโมงค์ของพวกเขาและอนุญาตให้พวกเขาอุโมงค์เข้าสู่โลกจากจักรวาลของพวกเขา. ในตอนท้ายของ ครึ่งชีวิต 2, กอร์ดอนจัดการเพื่อทำให้เสถียรและทำลายเครื่องปฏิกรณ์แบบฟิวชั่นมืดโดยใช้ลูกบอลพลังงาน.

  การก่อสร้าง [ ]

  

  ป้อมปราการอยู่ในระหว่างการก่อสร้างในช่วงเวลาครึ่งชีวิต: Alyx, ห้าปีก่อนเหตุการณ์ครึ่งชีวิต 2 หรือประมาณสิบห้าปีหลังจากสงครามเจ็ดชั่วโมง. สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าป้อมปราการใช้เวลาหลายปีในการสร้างหรือการก่อสร้างเริ่มช้าในการบุกรุกของการรวมกัน. คำอธิบายที่เป็นไปได้อีกประการหนึ่งคือการรวมกันต้องรอการหยุดพายุพายุก่อนที่พวกเขาจะเริ่มสร้างป้อมปราการได้อย่างปลอดภัย.

  รูปแบบเริ่มต้นของป้อมปราการเริ่มต้นเมื่อการรวมกันส่งแกนไปยังโลกที่มีโครงสร้างยอดแหลมที่ฝังอยู่ในพื้นผ่านวิธีการทางไกล; ป้อมปราการถูกสร้างขึ้นรอบ ๆ จากใต้ดินไปด้านบน. การก่อสร้างป้อมปราการประกอบด้วยทรัพยากรที่รวบรวมจากโลกซึ่งรวบรวมโดยการรวมและแปลงเป็นวัสดุสีฟ้าของพวกเขา. [3]

  ติดกับพื้นที่ก่อสร้างทั่วป้อม. สิ่งเหล่านี้มักจะให้พลังงานแก่ป้อมปราการจากแหล่งภายนอกเนื่องจากแกนกลางนั้นไม่สามารถใช้งานได้. . [4]

  กลุ่มของสายเคเบิลดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับลิฟต์เช่นโครงสร้างที่เรียกว่า Scaffolds โดย Alyx ซึ่งอาจได้รับมอบหมายให้มีการก่อสร้างอัตโนมัติหรือการขนส่งมวลวัสดุวัสดุ.

  ชุดสายเคเบิลขนาดเล็กยังขยายการเชื่อมต่อไปยังเมืองจากโครงสร้างเช่นสายไฟทั่วไปแนะนำให้ใช้ฟังก์ชั่นโครงสร้างในลักษณะเดียวกันกับสถานีย่อย. สายเคเบิลเหล่านี้เชื่อมต่อกับหลังคาโดยการก่อสร้าง striders.

  การทำลาย [ ]

  

  ใน ตอนที่หนึ่ง, ผลพวงจากการจู่โจมของกอร์ดอนบนป้อมปราการนั้นชัดเจน. การใช้เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่นที่มืดมิดมากเกินไปทำให้เกิดพลังงานและทำให้โครงสร้างของอาคารทั้งหมดไม่มั่นคงและกอร์ดอนจะต้องเดินทางไปยังแกนกลางเพื่อให้มีการรวมสนามบรรจุอีกครั้งและชะลอการล่มสลายของแกนกลางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้.

  มาถึงตอนนี้กองกำลังรวมกันทั้งหมดถูกอพยพออกจากเมือง 17 และบางส่วนถูกทิ้งไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนหลบหนีจากการระเบิด. เป็นผลให้ป้อมปราการแทบจะไม่ได้ถูกครอบครองเมื่อเทียบกับสถานะก่อนหน้านี้.

  อย่างไรก็ตามมีทหารหลายคนออกจากเป้าหมายและคนอื่น ๆ ก็พยายามหลบหนี. การตกแต่งภายในของป้อมปราการในขณะนี้เรืองแสงสีส้มในทางตรงกันข้ามกับสีน้ำเงินเย็นที่เคยเป็นเมื่อใช้งานได้ในขณะที่สะพานแตกสลายและเศษซากก็ตกลงมาจากด้านบนของหอคอยอย่างต่อเนื่อง. จากด้านนอกยอดเขาของป้อมปราการล้อมรอบไปด้วยเมฆสีดำและสีแดงหมุนวนพร้อมสายฟ้าฟาดสีเขียวที่โผล่ออกมาเศษซากจะถูกเปิดตัวอย่างต่อเนื่องจากด้านบน. สายไฟที่เชื่อมต่อป้อมปราการกับเมือง 17 ไม่มีอยู่อีกต่อไปและการระเบิดของเครื่องปฏิกรณ์แบบฟิวชั่นมืดได้ปลิวไปด้านบนของป้อมปราการ.

  จุดสุดยอดของ ตอนที่หนึ่ง เป็นพยานโดยกอร์ดอนและอัลซ์เมื่อแกนหลักของป้อมปราการประสบปัญหาการล่มสลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากมันรวบรวมพลังงานจำนวนมหาศาลที่จำเป็นในการส่งการส่งข้อมูลขั้นสุดท้ายออกนอกโลกไปยังส่วนที่เหลือของการรวมกัน ป้อมปราการพร้อมกับเมืองโดยรอบ 17. ดร. Kleiner บันทึกในข้อความของเขาถึงการต่อต้านว่าการทำลายล้างของเมือง 17 Citadel ได้ก่อให้เกิดป้อมปราการอื่น ๆ ทั่วโลกที่จะปิดตัวลง.

  

  ครึ่งชีวิต 2: ตอนที่สอง, ป้อมปราการยังคงครอบงำเมืองที่ถูกทำลายในขณะนี้ 17 แม้จะถูกทำลาย. ซุปเปอร์พอร์ตอยู่เหนือที่ซึ่งป้อมปราการเคยยืนขึ้นการดึงพลังให้เปิดจากเศษของแกนฟิวชั่นมืดผ่านการหมุนวนของพลังงานสีน้ำเงินหมุนวน. ในตอนท้ายของเกมซากของป้อมปราการที่ยุบตัวเป็นสิ่งที่เหลืออยู่ของโครงสร้างที่สูงและเอาชนะได้ครั้งเดียว.

  ป้อมปราการผ่านขั้นตอนการออกแบบที่หลากหลายในระหว่างการพัฒนาของเกมดังที่เห็นในภาพศิลปะแนวคิดหลายภาพและ WC Mappack. มันเริ่มเป็นแปรงจนกลายเป็นแบบจำลองที่เห็นใน ครึ่งชีวิต 2.